1. ประเภทสินเชื่อสำหรับตึกแถว เชียงใหม่

การเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการขอกู้ซื้ออาคารพาณิชย์

สินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยสามารถใช้สำหรับตึกแถว เชียงใหม่ที่มีการใช้งานแบบผสมผสาน คือมีส่วนที่อยู่อาศัยและส่วนพาณิชย์ ข้อดีคือมีอัตราดอกเบียที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 30-35 ปี

สินเชื่อเพื่อธุรกิจเหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์ เชียงใหม่ที่ใช้ประกอบธุรกิจล้วนๆ มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า แต่อัตราดอกเบียอาจสูงกว่าเล็กน้อย และระยะเวลาผ่อนชำระสั้นกว่า

สินเชื่อเพื่อการลงทุนสำหรับตึกแถว เชียงใหม่ที่ซื้อไว้เพื่อให้เช่าหรือเก็งกำไร ธนาคารจะพิจารณาจากศักยภาพการสร้างรายได้ของอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก

สินเชื่อเฉพาะกิจที่บางธนาคารมีสำหรับอาคารพาณิชย์ในโครงการเฉพาะ เช่น โครงการที่ธนาคารร่วมลงทุนหรือให้การสนับสนุน อาจมีเงื่อนไขที่ดีกว่าสินเชื่อทั่วไป

2. อัตราดอกเบียและเงื่อนไขการกู้

การเข้าใจอัตราดอกเบียและเงื่อนไขต่างๆ จะช่วยในการวางแผนการเงินและการเลือกธนาคารที่เหมาะสม

อัตราดอกเบียแบบคงที่ให้ความแน่นอนในการวางแผนการเงิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในการชำระ การกู้ซื้ออาคารพาณิชย์ด้วยอัตราคงที่จะทำให้คาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้แม่นยำ

อัตราดอกเบียแบบลอยตัวอาจเริ่มต้นต่ำกว่า แต่มีความเสี่ยงจากการปรับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้มั่นคงและสามารถรับความผันผวนได้ สำหรับตึกแถว เชียงใหม่ที่มีรายได้จากการเช่า อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ระยะเวลาผ่อนชำระสำหรับสินเชื่ออาคารพาณิชย์มักจะสั้นกว่าสินเชื่อบ้าน โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 15-25 ปี ระยะเวลาที่ยาวขึ้นจะทำให้งวดชำระต่ำลง แต่ดอกเบียรวมจะสูงขึ้น

อัตราส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าหลักทรัพย์ (LTV) สำหรับอาคารพาณิชย์มักจะต่ำกว่าสินเชื่อบ้าน โดยทั่วไปอยู่ที่ 70-80% ของมูลค่าประเมิน ต้องเตรียมเงินดาวน์อย่างน้อย 20-30%

3. การเปรียบเทียบธนาคารและเลือกสินเชื่อ

การเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารต่างๆ จะช่วยให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับการกู้ซื้อตึกแถว เชียงใหม่

ธนาคารพาณิชย์ใหญ่มักมีอัตราดอกเบียที่แข่งขันได้ และมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย แต่อาจมีเงื่อนไขการพิจารณาที่เข้มงวด เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้และประวัติเครดิตที่ดี

ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อาจมีสินเชื่อเฉพาะสำหรับอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ต่างจังหวัด ด้วยเงื่อนไขที่อาจเอื้ออำนวยกว่า

สถาบันการเงินเฉพาะกิจอาจมีสินเชื่อที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีสินเชื่อสำหรับอาคารพาณิชย์โดยเฉพาะ

เครดิตยูเนี่ยนและสหกรณ์ออมทรัพย์ อาจมีอัตราดอกเบียที่น่าสนใจสำหรับสมาชิก แต่จำนวนเงินกู้อาจจำกัด